ลงทุนครั้งเดียวจบ พร้อม เปลี่ยน ‘สวนโทรม’ เป็น แลนด์มาร์ก สีเขียวที่ยั่งยืนด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ จาก SO

แลนด์มาร์ก

การเป็น แลนด์มาร์ก ใจกลางเมือง หรือเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สำคัญ ซึ่งเริ่มต้นจากการสร้างความแตกต่างและอัตลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับแบรนด์ เพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้าและนักลงทุน นอกจากนี้ การเป็น แลนด์มาร์ก ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่ม มูลค่า ให้กับโครงการในระยะยาว ทั้งในแง่ของราคาอสังหาริมทรัพย์ ค่าเช่า และสามารถดึงดูดผู้เช่าหรือผู้ซื้อคุณภาพสูงให้เข้ามาในโครงการได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ท้ายที่สุดแล้ว การเป็นที่ 1 ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรให้เป็นที่ยอมรับในฐานะผู้พัฒนาที่มีวิสัยทัศน์และความสามารถ ทำให้ชื่อของโครงการกลายเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับความสำเร็จและคุณภาพอย่างแท้จริง

องค์ประกอบสำคัญที่เปลี่ยนพื้นที่สีเขียวกลายเป็น แลนด์มาร์ก ที่สมบูรณ์คืออะไร?

องค์ประกอบสำคัญที่เปลี่ยนพื้นที่สีเขียวให้กลายเป็น แลนด์มาร์ก ที่สมบูรณ์แบบนั้นมีมากกว่าแค่ความสวยงาม แต่ต้องเกิดจากการวางแผนและการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ซึ่งสามารถสรุปเป็น 3 ส่วนหลักได้ดังนี้

1. การออกแบบที่ตอบโจทย์และมีเอกลักษณ์

การออกแบบที่ดีเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด แลนด์มาร์ก สีเขียวไม่ได้เป็นเพียงแค่สวนทั่วไป แต่ต้องมีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนและสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของโครงการ เช่น การผสมผสานระหว่างธรรมชาติกับงานศิลปะ, การออกแบบที่ใช้งานได้จริงสำหรับทุกเพศทุกวัย หรือการสร้างสรรค์มุมถ่ายรูปที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ การเลือกชนิดของพืชพรรณที่เหมาะสมกับสภาพอากาศและสภาพดินในท้องถิ่นก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สวนสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนและคงความสวยงามไว้ได้นาน

2. การดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

หัวใจสำคัญที่ทำให้สวนสวยในวันแรกยังคงสวยงามในอีกหลายปีข้างหน้า คือการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ ซึ่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่มีองค์ความรู้เฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็น:

  • ทีมรุกขกร (Arborist): ผู้เชี่ยวชาญด้านต้นไม้ใหญ่ที่สามารถดูแลและรักษาต้นไม้ให้แข็งแรงและปลอดภัย

  • นักพฤกษศาสตร์: ผู้ที่มีความรู้เรื่องชนิดของพืช โรคพืช และวิธีการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี

  • การใช้เทคโนโลยี: การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการตรวจสอบคุณภาพดิน น้ำ และแสงแดด เพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด

3. การบริหารจัดการที่เป็นระบบ

แลนด์มาร์ก ที่ดีต้องไม่สร้างภาระค่าใช้จ่ายมหาศาลในระยะยาว การเลือกพืชที่เหมาะสม การใช้น้ำอย่างประหยัด และการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน จะช่วยลดต้นทุนและยืดอายุความสวยงามของสวนได้ นอกจากนี้ เมื่อพื้นที่สีเขียวในโครงการได้รับการดูแลอย่างดีเยี่ยม ก็จะกลายเป็นจุดขายที่ดึงดูดผู้คนและเพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างยั่งยืน

การลงทุนกับบริษัทดูแลสวนทั่วไปส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของโครงการอย่างไร?

“การประหยัดงบประมาณในระยะสั้นกับการจ้างบริษัทดูแลสวนทั่วไป คุ้มค่าจริงหรือเมื่อต้องแลกมากับความเสียหายของภาพลักษณ์โครงการในระยะยาว?”

สิ้นเปลืองงบประมาณซ้ำซ้อนในระยะยาว

แม้ค่าบริการของบริษัทดูแลสวนทั่วไปอาจถูกกว่า แต่ในท้ายที่สุดคุณอาจต้องจ่ายแพงกว่าหลายเท่า การดูแลที่ไม่ได้มาตรฐานจะทำให้ต้นไม้และพืชพรรณเกิดโรคหรือตายได้ง่าย ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนพืชใหม่เป็นประจำ นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาที่สะสมมานาน เช่น ระบบน้ำที่ไม่สมบูรณ์ หรือปัญหาเรื่องดินที่ไม่ได้รับการแก้ไข จะกลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายมหาศาลในอนาคต ซึ่งต่างจากการลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และวางแผนเชิงป้องกันตั้งแต่แรกเริ่ม ช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณและรักษาความสมบูรณ์ของสวนได้อย่างยั่งยืน

สวนโทรมภาพลักษณ์เสียหาย และ ขาดความน่าเชื่อถือ

การดูแลสวนที่ไม่เป็นมืออาชีพไม่ได้ส่งผลแค่ความไม่สวยงามภายนอก แต่ยังสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่ไร้คุณภาพของโครงการโดยรวม ลองจินตนาการว่าลูกค้าหรือนักลงทุนที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการเห็นต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา สนามหญ้าที่ไม่ได้รับการตัดแต่งอย่างสม่ำเสมอ หรือภูมิทัศน์ที่ดูรกรุงรัง สิ่งเหล่านี้จะสร้างความรู้สึกในแง่ลบและทำให้พวกเขาสงสัยในมาตรฐานการดำเนินงานอื่นๆ ของโครงการตามไปด้วย ทำให้โครงการสูญเสียความน่าเชื่อถือในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการขาย การให้เช่า หรือแม้แต่การสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางธุรกิจ

ไม่สามารถกลายเป็น ‘แลนด์มาร์ก’ ตามเป้าหมายได้

การที่พื้นที่สีเขียวจะกลายเป็น แลนด์มาร์ก ที่โดดเด่นและน่าจดจำได้นั้น ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่การตัดหญ้าหรือรดน้ำ การใช้บริการจากบริษัททั่วไปที่ขาดผู้เชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์จะทำให้การออกแบบสวนไม่สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของพรรณไม้แต่ละชนิดออกมาได้ ไม่มีการวางแผนการปลูกหรือดูแลที่สอดคล้องกับธรรมชาติของพืชอย่างแท้จริง ทำให้สวนขาดความพิเศษและเอกลักษณ์ จนกลายเป็นเพียงพื้นที่สีเขียวธรรมดาๆ ที่ไม่อาจสร้างจุดขายที่แข็งแกร่งให้กับโครงการได้

สัญญาณเตือนที่อาจส่งผลกระทบต่อการสร้าง ‘แลนด์มาร์ก’

การบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวใจกลางเมืองให้สวนสมบูรณ์อยู่ตลอดเวลานั้น ต้องอาศัยการดูแลอย่างพิถีพิถันและเป็นระบบ ซึ่งเจ้าของโครงการสามารถสังเกตสัญญาณเตือนเหล่านี้ เพื่อประเมินประสิทธิภาพการทำงานของทีมดูแลภูมิทัศน์ และป้องกันปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้

สัญญาณเตือนด้านสุขภาพของต้นไม้ชนิดต่างๆ หากพื้นที่สีเขียวของคุณกำลังเผชิญกับสัญญาณเหล่านี้ แสดงว่าการดูแลที่ผ่านมาอาจไม่ถูกวิธี และ กำลังส่งผลเสียต่อความสมบูรณ์ของพันธ์ไม้และพื้นที่สวนในระยะยาว

  • พืชมีอาการเหี่ยวเฉาหรือมีโรคระบาด จะสังเกตได้จากอาการใบเหลือง ใบไหม้ หรือมีจุดผิดปกติ สัขาวหรือดำ ซึ่งนี่อาจเป็นสัญญาณของโรคพืช รูปแบบต่างๆทั้งรุนแรงแระไม่รุนแรงได้ อาทิเช่น การขาดสารอาหาร โรคราแป้ง โรคระบาดจากแมลงศัตรูพืช ซึ่งปัญหาเหลานี้ล้วนมาจาการดูแลที่ไม่เหมาะสม

  • การเติบโตไม่เป็นไปตามปกติ ต้นไม้หรือพุ่มไม้มีขนาดเล็กกว่าที่ควรจะเป็น หรือมีลักษณะแคระแกร็น ซึ่งบ่งบอกถึงสภาพดินที่ไม่ดีหรือการบำรุงรักษาที่ไม่เพียงพอ

  • ระบบน้ำไม่มีประสิทธิภาพ พื้นดินแห้งแตกระแหงในบางจุด หรือบางจุดมีน้ำขัง แสดงถึงการรดน้ำที่ไม่ทั่วถึงหรือระบบระบายน้ำมีปัญหาซึ่งสามารถสร้างอันตรายต่อผู้ใช้สถานที่ได้

สัญญาณเตือนด้านบุคลากร คุณภาพของทีมงานในการดูแลสวนถือเป็นหัวใจสำคัญ หากทีมดูแลสวนของคุณขาดความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์และองค์ความรู้ที่เหมาะสม อาจทำให้ปัญหาเล็กๆ กลายเป็นปัญหาใหญ่จนส่งผลเสียที่เกินควบคุมได้

  • ขาดการสื่อสารเชิงรุก หัวหน้างาน หรือ ผู้ควบคุมงาน ไม่สามารถให้คำอธิบายที่ชัดเจน เกี่ยวกับแผนการดูแลสวนในแต่ละสวน แต่ละช่วงเวลา ให้กับพนักงานสวนเข้าใจได้ หรือไม่มีการแจ้งเตือนปัญหาที่พบเจอพร้อมวิธีการแก้ไขให้กับบริษัทได้รับรู้ สิ่งนี้อาจะส่งผลร้ายแรงต่อต้นไม้และความสวยงามของพื้นที่ได้่

  • ทำงานโดยขาดความเข้าใจ การที่ทีมงานทำงานแบบหุ่นยนต์ เช่น การตัดหญ้าตามกำหนดเวลาโดยไม่สนใจสภาพอากาศ หรือการตัดแต่งกิ่งไม้แบบสุ่มโดยไม่คำนึงถึงหลักวิชาการ และการทำงานตามหน้าที่ โดยไม่มีความยืดหยุ่นแผนงานตามความเหมาะสม แสดงให้เห็นถึงปัญหาในการบริหารจัดการ ที่ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่าย

  • การขาดแคลนบุคลากร ในกรณีของบริษัทดูแลสวน หรือผู้รับเหมางานภูมิทัศน์มีการเปลี่ยนพนักงานบ่อยครั้ง ส่งคนไม่ครบตามจำนวนที่ระบุไว้ ซึ่งส่งผลให้การดูแลสวนขาดความต่อเนื่องและยากที่จะพัฒนาทักษะเฉพาะทางและความเชี่ยวชาญของคนงานได้ นอกจาะนี้ยังส่งผลต่อการติดตามค่าปรับและการดำเนินงานอื่นๆในอนาคต

สัญญาณเตือนด้านการบริหารจัดการ ขาดผู้ดูแลไซต์ หรือ ทีมประสานงานที่ไม่มีประสิทธิภาพจะส่งผลกระทบต่อความสมบูรณ์ของสวน และอาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่บานปลายได้ อาทิเช่น

  • สวนทรุดโทรมเร็วหลังจากดูแล สวนดูสวยงามเพียงไม่กี่วันหลังจากการปลูกหรือการดูแลรักษา แต่กลับทรุดโทรมอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าทีมงานทำงานแบบแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ได้วางแผนการดูแลในระยะยาว และขาดการทำงานที่เป็นระบบ

  • ไม่มีแผนบำรุงรักษาที่ชัดเจน การทำงานที่ไม่เป็นระบบ ไม่มีตารางการบำรุงรักษาล่วงหน้า ทำให้การดูแลสวนขาดความสม่ำเสมอ

  • ค่าใช้จ่ายบานปลาย มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ไม่ได้คาดคิดอยู่เสมอ เช่น ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนต้นไม้ที่ตาย หรือค่าซ่อมแซมส่วนต่างๆ ที่ถูกละเลย และหากเกิอุบัติเหตุก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งสะท้อนถึงการบริหารจัดการงบประมาณที่ไร้ประสิทธิภาพ

SO บริการดูแลสวน และปรับภูมิทัศน์ ครบวงจร  

   ภายใต้ บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้นำด้านธุรกิจ Outsourcing ของไทยที่ยกระดับการให้บริการในทุกมิติติ สู่การเข้าไปร่วมคิด ออกแบบ วางแผน และ กำหนดกลยุทธ์องค์กร หรือ Strategic Partner ให้กับลูกค้า ด้วยประสบการณ์ในการบริหารงานด้านภูมิทัศน์กว่า 40 ปี พร้อมนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยจาก ทั่วโลก เข้ามาพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด นอกจากนี้เรายังมี benefit อื่นๆที่พร้อมให้คุณได้มากว่าอาทิเช่น        

  • มีทีมงานกำกับดูแลไซต์งานโดยเฉพาะ
  • มีทีมรุกขกรและที่ปรึกษาด้านพฤษศาสตร์ระดับประเทศ 
  • มีการอบรมพัฒนาทักษะและความปลอดภัยในการทำงานก่อนเริ่มงาน     
  • มีทีมผู้เชี่ยวชาญจากส่วนกลางเข้าตรวจคุณภาพทุกเดือน    
  • มีห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ LAB ในการวิเคาระห์และตรวจสอบดินและปุ่ย   
  • ผ่านมาตรฐาน ด้านการบริหารจัดการ ISO9001 และ มาตรฐานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO14001-2005 และเป็นบริษัท Outsource รายแรกที่ได้ ISO ด้านการลดกระบวนการในการทำงาน หรือ LEAN ISO18404  

สนใจบริการติดต่อ คุณจุ๋ม ที่เบอร์ 090-197-8513
หรือ @LINE : SO GREEN
กรอกแบบฟอร์ม ขอใบเสนอราคา คลิก 

 

สรุป
การลงทุนในโครงการมิกซ์ยูสควรมาพร้อมกับการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวอย่างมืออาชีพ เพื่อเปลี่ยน ‘สวนโทรม’ ให้กลายเป็น แลนด์มาร์ก ที่สร้างความประทับใจและเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการในระยะยาว SO ในฐานะผู้นำด้าน Outsource จึงพร้อมเป็น Strategic Partner ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ, รุกขกรระดับประเทศ และมาตรฐานระดับสากล เพื่อมอบบริการดูแลสวนแบบครบวงจร ที่ไม่ใช่เพียงแค่การบำรุงรักษา แต่คือการสร้างสรรค์พื้นที่สีเขียวที่สวยงามและยั่งยืนให้กับโครงการของคุณ.

Writer : Thanatwarit Phalinratthanadet

Digital and Performance Marketing. : SO-Siamrajathanee Plc.
Follow : Linkedin - Thanatwarit.p 

นักการตลาดดิจิทัล มีประสบการณ์การทำ Performance Marketing และ SEO มากกว่า 5 ปี เชื่อว่าคอนเทนท์ที่ดีต้องมีประโยชน์ สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน จึงอยากแชร์เรื่องราวและแนวคิดที่ทำให้ “ธรรมชาติ” กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ธุรกิจและสร้างความสุขให้กับผู้คนอีกครั้ง 

บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน)

329 ม.10 กุศลส่งสามัคคี ซ.1 ถ.รถรางสายเก่า สำโรง อำเภอพระประแดง สมุทรปราการ 10130     
โทร : 02-363-9300