ในงานดูแลสวนระดับอุตสาหกรรม ความสวยงามเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ “ความปลอดภัย” ที่ไม่กระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจ โดยเฉพาะในพื้นที่โรงงาน พลังงาน หรือปิโตรเลียมที่มีความเสี่ยงสูง หลายองค์กรจึงเลือกใช้ระบบ JSA (Job Safety Analysis) มาเป็นแนวทางบริหารความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกขั้นตอนปลอดภัย ทั้งต่อบุคลากร ทรัพย์สิน และระบบของลูกค้า ระบบ JSA ไม่ได้เป็นเพียงแบบฟอร์มเอกสารเท่านั้น แต่เป็น “แนวคิดบริหารความเสี่ยง” ที่ได้รับการยอมรับระดับสากล ซึ่งควรถูกนำมาใช้ตั้งแต่การประเมินพื้นที่ การปรับแผนการทำงานรายจุด ไปจนถึงการสื่อสารกับทีมหน้างานแบบเรียลไทม์ โดยเฉพาะในจุดที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การทำงานใกล้แนวไฟฟ้าแรงสูง หรือท่อส่งสารไวไฟ ตลอดจนพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมซับซ้อน เช่น พื้นที่ลาดชันหรือใกล้แหล่งน้ำ แนวทางเหล่านี้ต้องอาศัยความแม่นยำและระบบการควบคุมที่เข้มงวด เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างปลอดภัยในทุกบริบท
JSA ในงานภูมิทัศน์ช่วยปกป้องได้มากกว่าที่คุณคิด
การใช้ JSA ในงานภูมิทัศน์ ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงล่วงหน้า เช่น จุดตัดต้นไม้ใกล้แนวท่อส่งก๊าซ สายไฟแรงสูง หรือพื้นที่ลาดเอียง โดยองค์กรที่เชี่ยวชาญจะกำหนดแผนการทำงานเฉพาะจุด พร้อมจัดทำเอกสาร JSA ให้ครบถ้วนก่อนเริ่มงาน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ป้องกัน อาทิ ป้ายเตือน โซนกันเขต และอุปกรณ์เฉพาะทาง เช่น ระบบกันสะเก็ดไฟจากเครื่องจักร การกั้นพื้นที่ทำงานด้วยแนวกั้นมาตรฐานอุตสาหกรรม และการประสานงานกับหน่วยงานความปลอดภัยภายในโรงงานทุกครั้งก่อนดำเนินการ ทีมงานที่ปฏิบัติงานภาคสนามต้องผ่านการอบรมเกี่ยวกับการทำงานภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยล่าสุด เช่น ISO14001 หรือมาตรฐานเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม เช่น API สำหรับโรงกลั่นหรือ IEC สำหรับพื้นที่ใกล้แหล่งพลังงานไฟฟ้า เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ และ เป็นการเตรียมมาตรฐานและขั้นตอนปฏิบัติเพื่อรองรับเหตุฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างเช่น ในพื้นที่ใกล้สายไฟแรงสูง ควรปรับแผนการทำงานให้ใช้เครื่องมือตัดแต่งต้นไม้แบบปลอดประกายไฟ เช่น กรรไกรตัดกิ่งแบบแมนนวลแทนเครื่องยนต์ หรือการใช้ระบบ “Lock Out Tag Out (LOTO)” เพื่อหยุดแหล่งพลังงานก่อนเข้าพื้นที่ทำงาน พร้อมวางแผนควบคุมเขตทำงานด้วยแนวกันเขตและป้ายเตือนตามมาตรฐาน OSHA หรือ IEC ในกรณีงานใกล้สายไฟแรงดันสูง โดยเอกสาร JSA ที่จัดทำขึ้นจะระบุขั้นตอนการทำงาน อุปกรณ์ที่ใช้ ผู้รับผิดชอบ แผนฉุกเฉิน และวิธีการประสานงานกับทีม HSE ของลูกค้าไว้อย่างชัดเจน ในบางพื้นที่ที่มีความเสี่ยงพิเศษ เช่น พื้นที่ลาดชันหรือใกล้ระบบระบายน้ำ SO Green ยังใช้เทคนิคการจำลองเหตุการณ์ล่วงหน้า (Scenario-Based Simulation) เพื่อทดสอบความพร้อมของแผนฉุกเฉิน และมีระบบรายงานดิจิทัลที่สามารถอัปเดตแบบเรียลไทม์ให้ลูกค้าเห็นความคืบหน้าและผลการทำงานแบบโปร่งใส
ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงแนวทาง “Preventive First, Reactive Never” หรือ “ป้องกันก่อน ไม่ใช่แก้ไขทีหลัง” ซึ่งเป็นหลักสำคัญที่ SO Green ยึดถือในการบริหารภูมิทัศน์ระดับอุตสาหกรรม เพื่อให้มั่นใจว่า ทุกแผนงานจะไม่ใช่แค่ปลอดภัย แต่คือการลงทุนที่คุ้มค่าในการลดความเสี่ยงระยะยาว
ขั้นตอน และ มาตรฐาน JSA ระดับสากลที่ทั่วโลกยึดมั่น
ในโลกของการบริหารพื้นที่สีเขียว JSA (Job Safety Analysis) ไม่ใช่แค่เอกสาร แต่เป็นเครื่องมือสร้างความเชื่อมั่น ช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร หรือหยุดสายการผลิตอย่างไม่คาดคิด ผู้ให้บริการที่มีความสามารถในการวางแผน และ ดำเนินการตามแนวทาง JSA ที่สอดคล้องกับมาตรฐาน ISO, LEAN และ คู่มือเฉพาะทางของอุตสาหกรรม จึงเป็นทางเลือกที่องค์กรทั่วโลกให้ความไว้วางใจ การประเมินความปลอดภัยในงานภูมิทัศน์ หรือ Job Safety Analysis (JSA) เป็นกระบวนการที่สำคัญเพื่อลดอุบัติเหตุ และ สร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน โดยมีขั้นตอนหลักดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การเลือกและแบ่งขั้นตอนของงาน (Select & Break Down the Job) การเลือกงานที่จะประเมิน ควรเลือกงานที่มีความเสี่ยงสูง หรืองานที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งในงานภูมิทัศน์ เช่น
การตัดแต่งต้นไม้ใหญ่
การใช้เครื่องจักร ในบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เครื่องตัดหญ้า, เลื่อยโซ่
การขุดดินหรือปรับพื้นที่
การใช้สารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลง, ปุ๋ย
งานใหม่หรืองานที่มีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนหรืออุปกรณ์
ตัวอย่างการแบ่งขั้นตอนงาน แบ่งงานที่เลือกออกเป็นลำดับขั้นตอนย่อยๆ เพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์อันตรายในแต่ละส่วน เช่น งานตัดหญ้าด้วยเครื่องสะพายบ่า อาจแบ่งได้ดังนี้
การเตรียมและตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องตัดหญ้า
การตรวจสอบพื้นที่ และ เตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ก่อนตัด
การสตาร์ทเครื่องยนต์ และ เริ่มปฏิบัติงาน
การทำความสะอาด และ จัดเก็บอุปกรณ์หลังใช้งาน
ขั้นตอนที่ 2 การชี้บ่งอันตรายในแต่ละขั้นตอน (Identify Hazards) ในขั้นตอนนี้ ทีมงานซึ่งประกอบด้วยผู้ปฏิบัติงาน, หัวหน้างาน และเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.) จะต้องช่วยกันระบุอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอนย่อย โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น
คน (People) ความเหนื่อยล้า, การทำงานผิดขั้นตอน, ขาดความชำนาญ
เครื่องมือ/อุปกรณ์ (Equipment) อุปกรณ์ชำรุด, ไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน, การ์ดป้องกันไม่ครบ
วัสดุ (Material) การสัมผัสสารเคมี, การจัดการของมีคม
สภาพแวดล้อม (Environment) พื้นที่ลื่น, พื้นต่างระดับ, สภาพอากาศร้อนจัด, บริเวณใกล้สายไฟฟ้า, สัตว์มีพิษ
ตัวอย่างอันตรายในงานภูมิทัศน์
การตัดหญ้า เศษหิน/ของแข็งกระเด็น การสัมผัสใบมีด เสียงดัง การสะดุดล้ม
การตัดแต่งกิ่งไม้ การตกจากที่สูง กิ่งไม้หล่นทับ การถูกของมีคมบาด การสัมผัสสายไฟฟ้า
การขุดดิน การสัมผัสสายไฟฟ้าหรือท่อใต้ดิน ดินถล่ม
การใช้สารเคมี การระคายเคืองผิวหนัง ปัญหาระบบทางเดินหายใจจากการสูดดม
ขั้นตอนที่ 3 การกำหนดมาตรการป้องกันและควบคุม (Determine Preventive Measures) เมื่อระบุอันตรายได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการกำหนดมาตรการควบคุมเพื่อลดหรือขจัดความเสี่ยง โดยเรียงลำดับความสำคัญของมาตรการควบคุมจากประสิทธิภาพสูงสุดไปน้อยที่สุด ดังนี้
การกำจัด (Elimination) หากเป็นไปได้ ให้กำจัดอันตรายนั้นออกไป เช่น งดการทำงานใกล้สายไฟฟ้าแรงสูง
การทดแทน (Substitution) เปลี่ยนไปใช้วิธีการหรืออุปกรณ์ที่ปลอดภัยกว่า เช่น ใช้ยาฆ่าแมลงชีวภาพแทนสารเคมีอันตราย
การควบคุมเชิงวิศวกรรม (Engineering Controls) การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันที่เครื่องจักร เช่น การติดตั้งการ์ดป้องกันใบตัด
การควบคุมเชิงบริหารจัดการ (Administrative Controls): การจัดทำขั้นตอนการทำงานที่ปลอดภัย, การอบรมพนักงาน, การติดป้ายเตือน, การหมุนเวียนคนทำงานเพื่อลดความเหนื่อยล้าการจัดให้มีผู้ควบคุมงาน การจำกัดพื้นที่การทำงาน
การใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment – PPE) เป็นมาตรการสุดท้ายที่ต้องทำควบคู่กับมาตรการอื่นเสมอตัวอย่าง PPE ในงานภูมิทัศน์ ได้แก่ หมวกนิรภัย แว่นตานิรภัย ถุงมือนิรภัย รองเท้าหัวเหล็ก ที่ครอบหู และหน้ากากป้องกันสารเคมี
ขั้นตอนที่ 4 การจัดทำเอกสารและนำไปปฏิบัติ (Document & Implement) หลังจากวิเคราะห์ครบทุกขั้นตอนแล้ว ต้องจัดทำเป็นเอกสาร JSA ที่ชัดเจน ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ ลำดับขั้นตอนของงาน อันตรายที่อาจเกิดขึ้น และมาตรการป้องกันและควบคุม จากนั้นนำเอกสารนี้ไปใช้ในการ
อบรมพนักงาน เพื่อให้ทุกคนเข้าใจถึงอันตรายและวิธีทำงานที่ปลอดภัย
สื่อสารก่อนเริ่มงาน (Toolbox Talk) เพื่อทบทวนความปลอดภัยก่อนการทำงานทุกครั้ง
ตรวจสอบและทบทวน JSA ควรได้รับการทบทวนและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการทำงาน, อุปกรณ์ หรือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
การมีส่วนร่วมของผู้ปฏิบัติงานและหัวหน้างานในทุกขั้นตอนเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ JSA มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะเป็นผู้ที่รู้หน้างานจริงและสามารถชี้จุดเสี่ยงต่างๆ ได้ดีที่สุดนอกจากความปลอดภัยแล้ว การมีรายงานผลลัพธ์ที่ตรวจสอบได้ และสามารถนำไปต่อยอดในการรายงาน ESG ได้จริง ยังช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่ต้องผ่านการประเมินจากองค์กรต่างประเทศ หรืออยู่ในตลาดทุน การวางระบบเช่นนี้ คือหนึ่งในรากฐานสำคัญของความยั่งยืนในอนาคต
มาตรฐาน JSA ที่ดีความปลอดภัยจะต้องมาเป็นอันดับแรก
การดูแลสวนและภูมิทัศน์ในพื้นที่ที่มีข้อกำหนดความปลอดภัยสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือศูนย์พลังงาน ไม่ควรถูกมองว่าเป็นเพียงงานสนับสนุนด้านสภาพแวดล้อม แต่ควรได้รับการบริหารจัดการเช่นเดียวกับกระบวนการหลักของโรงงาน โดยต้องอ้างอิงมาตรฐาน HSE (Health, Safety and Environment) อย่างเคร่งครัด ทั้งด้านการอบรมพนักงาน การเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ PPE และ แผนงานที่ครอบคลุมความเสี่ยงทุกรูปแบบ
SO Green ทีมงานทุกคนต้องผ่านการอบรมเฉพาะทางในหลักสูตรความปลอดภัยประจำกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น หลักสูตรความปลอดภัยสำหรับพื้นที่อับอากาศ การทำงานที่สูง และ การใช้เครื่องมือเฉพาะที่มีความเสี่ยง ก่อนเริ่มเข้าพื้นที่จริง โดยในทุกไซต์งาน จะมีการจัดทำเอกสาร Work Permit ร่วมกับฝ่ายวิศวกรรมหรือ HSE ของลูกค้าอย่างรัดกุม และ มีการอนุมัติร่วมกันในแต่ละขั้นตอน ตัวอย่างเช่น
โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม ใช้แนวทาง JSA ในการประเมินงานตัดแต่งต้นไม้บริเวณใกล้สายไฟแรงสูง โดย SO Green ร่วมวางแผนกับหน่วยงานวิศวกรรมภายใน ประสานหยุดจ่ายไฟชั่วคราว และเลือกใช้อุปกรณ์ที่ไม่ก่อประกายไฟแทนเครื่องจักรทั่วไป พร้อมมี จป. วิชาชีพ ควบคุมหน้างานอย่างใกล้ชิดจนเสร็จสิ้นกระบวนการ
แนวทางดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า SO Green ไม่ได้มองการดูแลสวนเป็นเพียงงานภายนอกอาคาร แต่ยกระดับให้เทียบเท่ากระบวนการหลักของโรงงาน โดยยึดหลัก “ปลอดภัยก่อน ปลอดภัยระหว่าง และปลอดภัยตลอดเวลา” เป็นแนวทางการทำงานทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่วิกฤตที่ความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย อาจกระทบต่อความปลอดภัยของระบบทั้งหมด นอกจากนี้ SO ในองค์กรที่มีระบบบริหารข้อมูลอย่างครบวงจร เช่น บริษัทพลังงานระดับประเทศ ยังมีการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อติดตามการดำเนินงาน JSA ทั้งแบบเรียลไทม์ และจัดเก็บข้อมูลย้อนหลังให้ฝ่าย HSE และ ESG ตรวจสอบได้ทันที โดยเฉพาะเมื่อมีการตรวจประเมินโดยองค์กรภายนอกหรือในการจัดทำ Sustainability Report
ทำไมองค์กรชั้นนำเลือกใช้บริการด้านภูมิทัศน์จาก SO GREEN
SO GREEN ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงผู้ให้บริการจัดสวนหรือดูแลต้นไม้ แต่คือพาร์ทเนอร์เชิงกลยุทธ์ที่ช่วยให้องค์กรดำเนินงานด้าน ESG ได้อย่างเป็นรูปธรรมและตรวจสอบได้ องค์กรที่เลือกใช้บริการ SO GREEN จะได้รับผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์หลากหลายประการ เช่น:
- การดูแลต้นไม้และพื้นที่สีเขียวโดยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น นักรุกขกรมืออาชีพ (Certified Arborist) ที่ผ่านการอบรมและสอบใบรับรองตามมาตรฐานสากล
- ระบบวิเคราะห์สุขภาพของพื้นที่สีเขียวแบบองค์รวม ครอบคลุม 9 มิติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงกับแนวทางการรายงาน ESG ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- การจัดทำรายงานการดำเนินงานในรูปแบบ ESG-Ready ที่สามารถนำไปใช้ประกอบรายงานความยั่งยืน (Sustainability Report) หรือใช้ในการประเมินของหน่วยงานตรวจสอบภายนอก
- การออกแบบแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวที่เอื้อต่อการสร้าง Carbon Credit และสนับสนุนการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity)
ในโลกธุรกิจยุคใหม่ที่การแสดงออกถึงความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นข้อบังคับ พื้นที่สีเขียวจึงกลายเป็นหนึ่งในดัชนีที่สะท้อนความมุ่งมั่นขององค์กรที่ต้องการเป็นผู้นำในเรื่องความยั่งยืน การเลือกพาร์ทเนอร์ที่มีทั้งความเข้าใจเชิงวิชาการ เชิงเทคนิค และเชิงกลยุทธ์ จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนเป้าหมาย ESG ไปสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลกได้อย่างมั่นคง และ SO GREEN คือหนึ่งในพาร์ทเนอร์ที่ตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่อย่างแท้จริง
SO บริการดูแลสวน และปรับภูมิทัศน์ ครบวงจร
ภายใต้ บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้นำด้านธุรกิจ Outsourcing ของไทยที่ยกระดับการให้บริการในทุกมิติติ สู่การเข้าไปร่วมคิด ออกแบบ วางแผน และ กำหนดกลยุทธ์องค์กร หรือ Strategic Partner ให้กับลูกค้า ด้วยประสบการณ์ในการบริหารงานด้านภูมิทัศน์กว่า 40 ปี พร้อมนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยจาก ทั่วโลก เข้ามาพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด นอกจากนี้เรายังมี benefit อื่นๆที่พร้อมให้คุณได้มากว่าอาทิเช่น
- มีทีมงานกำกับดูแลไซต์งานโดยเฉพาะ
- มีทีมรุกขกรและที่ปรึกษาด้านพฤษศาสตร์ระดับประเทศ
- มีการอบรมพัฒนาทักษะและความปลอดภัยในการทำงานก่อนเริ่มงาน
- มีทีมผู้เชี่ยวชาญจากส่วนกลางเข้าตรวจคุณภาพทุกเดือน
- มีห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ LAB ในการวิเคาระห์และตรวจสอบดินและปุ่ย
- ผ่านมาตรฐาน ด้านการบริหารจัดการ ISO9001 และ มาตรฐานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO14001-2005 และเป็นบริษัท Outsource รายแรกที่ได้ ISO ด้านการลดกระบวนการในการทำงาน หรือ LEAN ISO18404
สนใจบริการติดต่อ คุณจุ๋ม ที่เบอร์ 090-197-8513
หรือ @LINE : SO GREEN
กรอกแบบฟอร์ม ขอใบเสนอราคา คลิก
สรุป
JSA (Job Safety Analysis) หรือ การวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย คือแกนหลักในการดำเนินงาน ผ่าน “แนวคิดบริหารความเสี่ยง” ที่ได้รับการยอมรับระดับสากล ซึ่ง SO GREEN นำมาใช้ในทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่การประเมินพื้นที่ที่มีความซับซ้อน เช่น จุดอับ จุดเสี่ยง ใกล้แนวสายไฟฟ้าแรงสูง หรือ ท่อส่งสารไวไฟ ไปจนถึงการวางแผนการทำงานรายจุดแบบเรียลไทม์ โดยมุ่งเน้นการป้องกันอุบัติเหตุและสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกระบวนการ ตั้งแต่การจัดทำเอกสาร JSA ที่ละเอียด การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันเฉพาะทาง เช่น ระบบกันสะเก็ดไฟ ไปจนถึงการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานความปลอดภัย (HSE) ของลูกค้าในทุกไซต์งาน พร้อมแผนการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับเหตุฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงมาตรฐานและความเป็นมืออาชีพที่ SO GREEN มอบให้ เพื่อปกป้องทั้งชีวิตพนักงาน ทรัพย์สินของลูกค้า และกระบวนการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปอย่างราบรื่นและยั่งยืน

Writer : Thanatwarit Phalinratthanadet
Digital and Performance Marketing. : SO-Siamrajathanee Plc.
Follow : Linkedin - Thanatwarit.p
นักการตลาดดิจิทัล มีประสบการณ์การทำ Performance Marketing และ SEO มากกว่า 5 ปี เชื่อว่าคอนเทนท์ที่ดีต้องมีประโยชน์ สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน จึงอยากแชร์เรื่องราวและแนวคิดที่ทำให้ “ธรรมชาติ” กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ธุรกิจและสร้างความสุขให้กับผู้คนอีกครั้ง

บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน)
329 ม.10 กุศลส่งสามัคคี ซ.1 ถ.รถรางสายเก่า สำโรง อำเภอพระประแดง สมุทรปราการ 10130
โทร : 02-363-9300

เบอร์โทร: 090-197-8513
เวลาติดต่อ จันทร์ - ศุกร์ 8:00 น.-17:00 น.

Line : @sogreen
เวลาติดต่อ จันทร์ - ศุกร์ 8:00 น.-17:00 น.
